เพลิงกามเทพ
ผู้เข้าชมรวม
300
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
“ฉันไม่ต้องการความเวทนาสงสาร” ถ้อยคำนั้นทำให้เพลิงยืนอึ้ง ประมวลคำพูดหลายวินาทีกว่าจะเข้าใจ
“เวทนาสงสารอะไรกัน”
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ฉันไม่ต้องการความเวทนาสงสาร” ถ้อยคำนั้นทำให้เพลิงยืนอึ้ง ประมวลคำพูดหลายวินาทีกว่าจะเข้าใจ
“เวทนาสงสารอะไรกัน”
“นายบอกฉันว่าที่นี่เป็นบ้านของเรางั้นหรือ นายจะบ้ารึเปล่า นายก็รู้ว่ามันไม่ใช่ นายเป็นเจ้าของ ฉันก็แค่คนอาศัย และไอ้งานที่นายให้ฉันทำ ถ้าจะเรียกให้ถูกมันคือคนใช้! อ้อ...นอกจากคนใช้แล้วนายยังเห็นฉันเป็น...”
ทาสบำเรอ!
ถ้อยคำนั้นติดอยู่แค่ในลำคอ ดาริกาสมเพชตัวเองเกินกว่าจะโพล่งมันออกไปได้ หญิงสาวกัดริมฝีปากนิ่ง มองเขาด้วยน้ำตาเอ่อคลออยู่เช่นนั้น
เพลิงพอจะเดาออกได้ว่าเธอจะพูดคำไหนออกมา เขาจึงส่ายหน้า เอ่ยเสียงเข้มว่า
“ไม่ใช่ ผมไม่เคยมองคุณต่ำต้อยแบบนั้น” ชายหนุ่มยกมือวาดในอากาศ ทำท่าเหมือนจะอธิบาย แต่สุดท้ายก็ทิ้งมันลงข้างลำตัว แล้วทอดถอนใจ “พูดไปคุณก็คงไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจอะไร ฉันเข้าใจดี นายไม่อยากให้ฉันอยู่ฟรีๆ เลยจะให้ฉันทำงานแลกกับข้าวกับที่ซุกหัวนอน เท่านั้นคงยังไม่สาแก่ใจ นายยังทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีจากฉันทั้งๆที่นายก็ไม่ได้รักฉันเลย! ใช่ซิ ฉันมันตัวคนเดียว หัวเดียวกระเทียมจะหันไปพึ่งใครก็ไม่ได้! นายก็เลยได้โอกาสมาแก้แค้นฉันให้สาสมกับที่ฉันเคยทำนายไว้ใช่ไหม!”
หญิงสาวเหลียวมองรอบกาย สูดลมหายใจลึก พยายามกลั้นน้ำตาที่เอาแต่ไหลรินลงมาอย่างน่าอาย
“นายยึดความเป็นอิสระของฉันไว้ ยึดโทรศัพท์ ไม่ให้ฉันติดต่อใคร จะออกไปไหนคนเดียวก็ไม่ได้ แบบนี้มันไม่ใช่บ้านแล้ว แต่มันเป็นคุก!”
“ดาริกา อย่าเข้าใจผิดได้ไหม”
เพลิงอยากจะอธิบายให้เธอเข้าใจเหลือเกินว่าที่ทำลงไปก็เพราะห่วงและหวง คำอธิบายมาหยุดรออยู่ที่ริมฝีปากแล้ว แต่ไอ้ถ้อยคำจากปากเธอที่พรั่งพรูออกมานี่ซิทำให้เขาสะอึก จุกในลำคอจนพูดอะไรไม่ออก
“ฉันเกลียดนาย เกลียดนายๆๆๆ ได้ยินไหม นายเพลิงบ้า!”
แน่นอน ‘นายเพลิงบ้า’ ได้ยินเต็มสองรูหู และมันทำให้เขาชาดิกไปทั้งตัว หัวใจเจ็บแปลบ ขาแข็งก้าวไม่ออก จะเดินหันหลังก็ไม่ได้ ก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะจับตัวเธอมาเขย่าให้สมกับความคับแค้นในหัวใจก็ไม่ได้
ทุกอย่างดูเคว้งคว้างล่องลอยพิกล
เมื่อเธอทรุดนั่งลงบนพื้น ใบหน้าก้มต่ำ และกำลังพึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง เพลิงก็กัดฟันแน่น กำมือแน่นแล้วคลายเช่นนี้สองสามครั้ง กระทั่งตัดสินใจได้ เขาคว้าโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของตัวเองออกมา แล้วยื่นให้เธอ
“โทรศัพท์ของคุณ เอาคืนไป” ดาริกาเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ บวมช้ำอย่างน่าเวทนา
“อยากโทร.หาใครก็โทร.ซะ ผมจะไม่ห้าม ไม่ยุ่ง ไม่ข้องเกี่ยวกับคุณอีก อยากทำอะไรก็เชิญตามสบาย แต่จำไว้...” เขาจ้องมองเธอ ริมฝีปากกระตุกก่อนที่จะเอ่ยประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“คุณควรตอบแทนคนที่ช่วยคุณ ไม่ว่าจากความตายหรือการเป็นขอทานข้างถนนก็ตาม!”
ดวงตาหม่นเศร้าเบิกกว้าง วาววะวับเรืองรองด้วยโทสะขึ้นมาวูบหนึ่ง
“คุณโตพอจะคิดได้แล้วว่าควรจะตอบแทนเขา ไม่ใช่มาตะโกนใส่หน้าว่าเกลียดอย่างนู้น เกลียดอย่างนี้ หรือถ้าจะให้ดีคุณควรมอบชีวิตของคุณให้เขาด้วย เพราะเขาลากคุณขึ้นมาจากขุมนรกที่คุณไม่เคยเจอ!”
ถ้อยคำที่ยาวเหยียดของเขาทำให้ดาริกาต้องคู้เข่าและซบหน้าลงบนมัน ก่อนจะเริ่มร้องไห้อย่างหนัก ครั้งนี้ไม่มีเสียงปลอบประโลม หรืออ้อมกอดใดๆให้เธออีก เพลิงเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังมามอง
ทั้งๆที่เธอไม่อยากจะไล่เขาไปให้พ้นๆ แต่พอเขาไปจริงๆ เธอกลับรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าครั้งไหน
หญิงสาวเงยหน้า พยายามกะพริบตาเพื่อขับไล่น้ำตาของตนเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนพื้น มองจ้องมันอยู่นานราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง แต่เสียงเครื่องยนต์ด้านนอกทำให้เธอละความคิดจากมัน พาร่างของตนเองเดินไปที่ระเบียง
แล้วตาของเธอก็ยิ่งพร่ามัว เมื่อภาพของหญิงสาวผู้หนึ่งโผเข้ากอดผู้เป็นเจ้าของบ้านซึ่งเดินออกไปต้อนรับ
ท่าทางเช่นนั้น แสดงถึงความสนิทสนมเกินกว่าเพื่อน
ดาริกาสะอึก ความพร่ามัวหนักขึ้นจนแทบมองทัศนียภาพตรงหน้าไม่เห็น
หญิงสาวยกมือทาบอกของตัวเองไว้ ราวกับต้องการจะสัมผัสว่าหัวใจของตนเองยังเต้นอยู่หรือไม่
ใช่...มันเต้นอยู่ แต่แผ่วเบาเหลือเกิน
เบาราวกับมันกำลังจะปลิดปลิวไปจากอก
เธอได้คำตอบแล้ว...สองเดือนที่ผ่านมา ทุกอย่างในตัวเธอที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะเขา เหตุผลทั้งหมดมีอยู่อย่างเดียว...ความรัก
เธอรักเขา
รักผู้ชายที่เธอบอกว่าเกลียดชังมาตลอดชีวิต
พร้อมกับการยอมรับความจริงในหัวใจ ดาริกาก็สัมผัสความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งที่รุนแรงไม่แพ้กัน นั่นคือความเหงาจับจิต เหมือนเธออยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ ...แค่คนเดียว ไร้ไออุ่น ไร้อ้อมกอดจากเขาและต่อจากนี้ไปเธอคงไม่ได้รับมันอีกแล้วล่ะมัง
ผลงานอื่นๆ ของ เดินทางไป ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เดินทางไป
ความคิดเห็น